Thursday, July 16, 2009

รับตรงแพทย์ ปี2553

กสพท.สอบวิชาสามัญแทนเอเน็ต 5 วิชา

แต่ยังคงยึดแนวทางตามเดิมคือจัดสอบ 5 วิชา ได้แก่ วิทยาศาสตร์ 40%, คณิตศาสตร์ 20% ภาษาอังกฤษ 20% ภาษาไทย 10% สังคมศึกษา 10% ......

ศ. พญ.บุญมี สถาปัตยวงศ์ ประธานคณะอนุกรรมการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต และหลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต ปีการศึกษา 2553 ผ่านระบบรับตรง ของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) เปิดเผยว่า ในการรับตรงปีการศึกษา 2553 กสพท.มีคณะแพทยศาสตร์ 12 สถาบัน ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น รับ 20 คน, จุฬาฯ รับ 200 คน, ม.เชียงใหม่ 45 คน, ม.ธรรมศาสตร์ 72 คน, ม.นเรศวร 30 คน, คณะแพทย์รามาธิบดี ม.มหิดล 158 คน, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล 250 คน, ม.รังสิต 40 คน, ม.ศรีนครินทรวิโรฒ 120 คน, ม.สงขลานครินทร์ 40 คน, วชิรพยาบาล 70 คน, แพทยศาสตร์พระมงกุฎ ชาย 60 คน หญิง 40 คน และทันตแพทยศาสตร์ 5 สถาบัน ได้แก่ คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ 80 คน, ม.มหิดล 80 คน, ม.เชียงใหม่ 30 คน, ม.สงขลานครินทร์ 20 คน, มศว 20 คน รวมรับนิสิตนักศึกษาประมาณ 1,375 คน รับสมัครทางอินเตอร์เน็ตของกลุ่ม กสพท. ตั้งแต่วันที่ 1-31 ส.ค.นี้เป็นต้นไป ชำระเงินผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด ทุกสาขา วันที่ 1 ส.ค. ถึงวันที่ 4 ก.ย.นี้ รวมค่าสมัครสอบ 1,215 บาท ซึ่งรวมการจัดสอบวิชาสามัญ ซึ่งปีนี้ กสพท.จัดสอบเอง โดยเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มจากปีที่ผ่านๆมาอีก 500 บาท ส่วนสอบวิชาเฉพาะวันที่ 31 ต.ค. สอบวิชาสามัญ วันที่ 23-24 ม.ค.2553 ผู้สมัครเลือกคณะได้ไม่เกิน 4 ลำดับ

ประธาน คณะอนุกรรมการสอบคัด เลือกฯกล่าวต่อว่า เกณฑ์การคัดเลือกนั้น จะยังคงใช้คะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐานหรือโอเน็ต ประจำปีการศึกษา 2552 ซึ่งสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติจัดสอบ ต้นปี 2553 ซึ่งผู้สมัครจะต้องได้คะแนนโอเน็ตรวมเท่ากับหรือมากกว่า 60% วิชา สามัญ ซึ่งเป็นวิชาที่ กสพท.จัดสอบแทนการสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง หรือเอเน็ต ที่ยกเลิกไป แต่ยังคงยึดแนวทางตามเดิมคือจัดสอบ 5 วิชา ได้แก่ วิทยาศาสตร์ 40%, คณิตศาสตร์ 20% ภาษาอังกฤษ 20% ภาษาไทย 10% สังคมศึกษา 10% โดยแต่ละกลุ่มสาระวิชาต้องได้เท่ากับหรือมากกว่า 30% และวิชาเฉพาะ 30%.



ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ * โดย ทีมข่าวการศึกษา * 16 กรกฎาคม 2552, 05:30 น.

http://www.thairath.co.th/content/edu/19839

สถาบันแพทย์แถลงรับตรง นศ.ปี 53 เปิดสมัคร 1-31 ส.ค.นี้

จุฬาฯ 15 ก.ค. - กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์ฯ แถลงการรับนักศึกษาแพทย์ปี 2553 โดยจัดสอบวิชาสามัญแทนเอเน็ตที่ยกเลิกไป เปิดรับสมัคร 1-31 ส.ค.นี้ เผยมีที่นั่งว่าง 1,375 ที่นั่ง แบ่งเป็นสาขาแพทยศาสตร์ 12 แห่ง และสาขาทันตแพทยศาสตร์ 5 แห่ง ใน 12 สถาบัน

ศ.นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ศ.นพ.อาวุธ ศรีศุกรี เลขาธิการกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) ศ.พญ.บุญมี สถาปัตยวงศ์ ประธานอนุกรรมการสอบคัดเลือกฯ และผู้บริหาร กสพท. แถลงหลักเกณฑ์การสมัครสอบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต และหลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต ปีการศึกษา 2553 ของคณะแพทยศาสตร์ 12 สถาบัน และคณะทันตแพทยศาสตร์ 5 สถาบัน ผ่านระบบรับตรงของ กสพท. เพื่อลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง ลดปัญหาในการมอบตัวเข้าเรียนซ้ำซ้อนหลายสถาบัน อันเป็นเหตุให้มีการสละสิทธิ์และเหลือที่นั่งว่าง ปีนี้มีที่ว่างเปิดรับ 1,375 ที่นั่ง มากที่สุดในสาขาแพทยศาสตร์ คือ ที่ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล 250 ที่นั่ง ส่วนในสาขาทันตแพทยศาสตร์ มากที่สุดที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและ มหาวิทยาลัยมหิดล แห่งละ 80 ที่นั่ง

ศ. พญ.บุญมี กล่าวว่า กระบวนการรับสมัครส่วนใหญ่ยังคงเดิม เช่น นักเรียนจะต้องมีคะแนนสอบการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 แต่เนื่องจากในปีนี้ไม่มีการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นสูง (เอเน็ต) แล้ว กสพท.จึงตัดสินใจจัดสอบวิชาสามัญเองทั้ง 5 รายวิชา คือ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และสังคมศึกษา และให้น้ำหนักร้อยละ 70 เช่นเดียวกับการสอบเอเน็ตเดิม ทั้งนี้ เพราะเห็นว่ากลุ่มสาระทั้ง 5 กลุ่มยังมีความจำเป็น ส่วนอีกร้อยละ 30 จะเป็นคะแนนวิชาเฉพาะ อย่างไรก็ตาม นักเรียนที่สนใจเข้าสถาบันใดควรเข้าไปอ่านรายละเอียดให้ครบถ้วน เพราะแต่ละแห่งอาจมีความแตกต่างกันบ้าง

สำหรับกำหนดการรับสมัครและ การสอบ จะเปิดรับสมัครทางอินเทอร์เน็ต ระหว่างวันที่ 1-31 ส.ค. 2552 และชำระเงินได้จนถึงวันที่ 4 ก.ย. จากนั้นจะมีการสอบวิชาเฉพาะวันที่ 31 ต.ค. 2552 ประกาศคะแนนประมาณเดือน ธ.ค. 2552 ส่วนการสอบวิชาสามัญ ในวันที่ 23-24 ม.ค. 2553 โดยการประกาศผลจะมีขึ้นในช่วงเดือน มี.ค. 2553 ทั้งนี้ มีค่าใช้จ่ายการสมัครเพิ่ม เพราะมีการจัดสอบวิชาสามัญแทนเอเน็ต คิดเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 500 บาท รวมเป็นค่าสมัคร 1,215 บาท.- สำนักข่าวไทย

Thursday, July 9, 2009

สมัครสอบโครงการ "PREP FOR QUOTA"

หลักการและเหตุผล
การ ศึกษาในระดับอุดมศึกษาเป็นเสมือนแหล่งความรู้ที่จะเสริมความก้าวหน้าทาง วิชาการ เพื่อใช้เป็นปัจจัยในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ อันเป็นปัจจัยพื้นฐานในการพัฒนาประเทศ บุคคลทั่วไปจึงให้ความสำคัญแก่การศึกษา ฉะนั้น การสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยตัดสินอนาคตของ นักเรียน จึงเป็นเหตุให้ทุกครั้งที่มีการเปิดรับสมัครนักเรียนเข้าเรียนต่อในระดับ อุดมศึกษา นักเรียนส่วนใหญ่จะเกิดความลังเลไม่สามารถตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุดสำหรับตนเอง ทั้งนี้เนื่องจากนักเรียนยังไม่ทราบถึงความต้องการ ความถนัด และระดับความรู้ความสามารถของตนเองอย่างแท้จริง
ดังนั้นฝ่ายวิชาการร่วมกับงานแนะแนว โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จึงได้จัดกิจกรรม การทดสอบวัดระดับความรู้ความสามารถด้านวิชาการ เพื่อให้นักเรียนจะได้นำผลการทดสอบวัดระดับความรู้ความสามารถด้านวิชาการของตน ไปเตรียมความพร้อม เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกคณะที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเอง
วัตถุประสงค์
1. เพื่อวัดระดับความรู้ความสามารถด้านวิชาการของนักเรียน
2. เพื่อเปรียบเทียบระดับความรู้ความสามารถด้านวิชาการกับข้อมูลคะแนนสูง-ต่ำแต่ละคณะของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปี 52 เป็นรายบุคคล
3. เพื่อให้นักเรียนสามารถเลือกคณะตรงกับความต้องการ และความสามารถของตนเอง
4. เพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักเรียนมีความพร้อมทางด้านวิชาการอย่างต่อเนื่อง
5. เพื่อเตรียมความพร้อมด้านวิชาการก่อนที่นักเรียนจะพบกับสนามสอบจริง
6. เพื่อให้สถานศึกษาเป็นแหล่งวิทยาการในการแสวงหาความรู้และบริการชุมชน
คุณสมบัติของผู้สมัคร
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 - 6 ที่ต้องการวัดระดับความรู้ความสามารถด้านวิชาการ


ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่สมัครสอบโครงการ "PREP FOR QUOTA"

Wednesday, July 1, 2009

สถานการณ์โรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เกี่ยวกับการเฝ้าระวังป้องกันของโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกมัธยม

สรุป สถานการณ์โรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009
ที่เกี่ยวกับการเฝ้าระวังป้องกันของโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกมัธยม
----------------------------------------------------------

การเฝ้าระวังป้องกันขั้นที่ 1
ให้ความรู้และติดโปสเตอร์เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ครู บุคลากร นักเรียน นักการภารโรง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและพนักงานโภชนาการ เกี่ยวกับสถานการณ์ของโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ขยาย วงกว้างไปเกือบทุกประเทศทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ ให้มีความรู้และเข้าใจโรคนี้อย่างถูกต้อง ตระหนักและป้องกันตนเองจากคำแนะนำ จากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคระบาด ของกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารตั้งแต่เดือน มีนาคม 2552 เป็นต้นมา

การเฝ้าระวังป้องกันขั้นที่ 2
วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2552 เวลา 08.20 – 14.00 น.ได้ร่วมมือกับสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่และองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ทำการรณรงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและป้องกันเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยทางสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้เชิญครูและนักเรียน จากโรงเรียนในจังหวัดเชียงใหม่มาร่วมรับทราบการระบาดของโรคดังกล่าว โดยมีนายแพทย์วัฒนา กาญจนกมล สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้บรรยายโดยมีนักเรียนจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย โรงเรียนปรินส์รอยแยลวิทยาลัย โรงเรียนดาราวิทยาลัย โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย โรงเรียนวชิระวิทย์แผนกมัธยม จำนวนประมาณ 1,000 คน ที่ห้องประชุมใหญ่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย พร้อมมอบผ้าปิดปากและจมูกแก่ทุกโรงเรียนๆละ 5,000 ชิ้น

การระวังป้องกันขั้นที่ 3
โดย สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ได้ทำการพ่นยาเพื่อฆ่าทำลายเชื้อโรค ทั่วบริเวณโรงเรียนหลายครั้ง เช่น
1. วันที่ 22 มิถุนายน 2552 เวลา 17.00 น.โดยแขวงกาวิละ
2. วันที่ 28 มิถุนายน 2552 เวลา 14.30 น.โดย สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ทำความสะอาดในห้องเรียนที่สงสัยว่ามีผู้ได้รับเชื้อ บริเวณห้องใกล้เคียงอื่นๆ
3. วันที่ 29 มิถุนายน 2552 ทำ Big Cleaning day ทั่วบริเวณโรงเรียน เช่น ห้องน้ำ ห้องปฏิบัติการ ห้องสนับสนุนกิจกรรมการเรียนการสอน ทางโรงเรียนได้รับการแนะนำวิธีการต่างๆที่ถูกต้อง และมอบน้ำยาฆ่าเชื้อพร้อมอุปกรณ์จาก สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และให้ติดต่อประสานทางโทรศัพท์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในเวลาราชการ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 053-216592,053-211084 นอกเวลาราชการ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 086-4313788 หรือ 084-8052121
การระวังป้องกันขั้นที่ 4
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน 2552 เวลา 14.30 น. ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ มีนักเรียนของเราได้ป่วยเป็นไข้หวัดเมื่อวันพุธที่ 24 มิถุนายน 2552 และได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ในวันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน 2552 แพทย์ที่รับการรักษาได้ยืนยันว่า ติดไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 และทางโรงพยาบาลได้แจ้งสาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขจังหวัดแจ้งให้โรงเรียนทราบอีกต่อหนึ่ง ( ผู้ป่วยเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตั้งแต่ 24-30 มิ.ย. ขณะนี้ยังอยู่ในโรงพยาบาลและมีอาการดีขึ้นตามลำดับจนเกือบเป็นปกติ แต่ให้อยู่ดูอาการต่อไป ส่วนคนในครอบครัวไม่ได้รับเชื้อโรคดังกล่าว )
ดังนั้นในวันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน 2552 เวลา 15.00 น. ทางโรงเรียนจึงได้ทำการล้างทำความสะอาดและทำการฆ่าเชื้อในห้องเรียน ห้องเรียนข้างเคียงทั้งหมดโดยการดูแลของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ที่ ได้นำน้ำยาฆ่าเชื้อพร้อมอุปกรณ์ มาส่งให้ทางโรงเรียน จึงจัดการทำความสะอาดทุกชั้นของอาคารเรียนในวันนั้นทันที

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน 2552
คณะเจ้าหน้าที่และแพทย์จาก สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้เข้ามาในโรงเรียนตั้งแต่ เวลา 8.30น.เพื่อให้คำแนะนำและคัดกรองนักเรียนที่เป็นเพื่อนผู้ป่วย และนักเรียนที่มีอาการไข้หวัด จำนวนหนึ่งลงมาตรวจ หลังจากตรวจร่างกายแล้ว นักเรียนที่มีไข้ ให้ผู้ปกครองมารับกลับบ้านเพื่อไปพบแพทย์
เวลา 13.00 น.คณะเจ้าหน้าที่และแพทย์จึงเดินทางกลับเพื่อประชุมสรุปผลต่อสาธารณสุขจังหวัด และทางโรงเรียนได้ให้มาสเตอร์บุญเท่ง เถระหัวหน้าฝ่ายกิจการนักเรียน เป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุมในเวลา 14.30 น เพื่อร่วมกันวางแผนต่อไป
เวลา 13.30 น. ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่นำโดยรองนายก อบจ. คุณรุจ วรรณรัตน์ ได้นำคณะมาเยี่ยมโรงเรียนเพื่อ มอบอุปกรณ์ ผ้าปิดปากและจมูกจำนวน 5,000 ชิ้น ยาฆ่าเชื้อโรค นำรถยนต์พ่นยาฆ่า
เชื้อโรคจำนวน 2 คันมาพ่นยาฆ่าเชื้อ และนำเครื่องพ่นยาฆ่าเชื้อโรคที่ใช้แรงคนจำนวน 3 เครื่องพ่นตามห้องเรียน ห้องพักครู ห้องสนับสนุนการเรียนการสอน ทุกอาคาร ตลอดจนห้องน้ำทุกห้อง และได้ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค โดยทางโรงเรียนได้งดเรียนคาบสุดท้ายเพื่อร่วมมือกันทำความสะอาดทั้งคณะครู นักเรียน นักการภารโรง พนักงานโรงอาหาร
ตลอดเวลาในสถานการณ์การเฝ้าระวัง และเมื่อมีนักเรียนป่วยด้วยโรคดังกล่าวเกิดขึ้น 1 ราย หลังจากได้รับแจ้งจากสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ทางโรงเรียนได้ประสานงานและทำความเข้าใจกับสมาคมผู้ปกครองโดยนายกสมาคม คุณพรสวรรค์ สังข์สังวาลย์ และกรรมการบางท่าน ได้เข้ามาช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาหารือตลอดเวลา
มีผู้ปกครองได้สอบถามทางโทรศัพท์กับทางโรงเรียนด้วยความเป็นห่วงลูกหลาน ในกรณีที่ทางโรงเรียนยังคงเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ เนื่องจากทางโรงเรียนได้ประสานงานกับสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่โดยตลอด และเห็นว่าไม่จำเป็นต้องประกาศปิดโรงเรียน และทางสาธารณสุขจังหวัดขอให้ทางโรงเรียนแจ้งข่าวกับนักเรียนและผู้ปกครองให้เข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริง
ทางโรงเรียนได้รายงานให้ผู้อำนวยการสำนักงานพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 ในวันที่ 29 มิถุนายน 2552 ว่ามีนักเรียนป่วยด้วยโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 เพียง 1 ราย ตามคำยืนยันของสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่

มาตรการอื่นๆที่โรงเรียนได้ดำเนินการมีดังนี้
วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน 2552 เวลา 11.30 – 13.00 น. เจ้าหน้าที่ของสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ให้ ข้อมูลเกี่ยวกับโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 การเฝ้าระวังป้องกันโรค การใช้ผ้าปิดปากและจมูก การปฏิบัติตนที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของโรค และตอบข้อสงสัย แก่ ครู บุคลากร นักการภารโรงทั้งหมดของโรงเรียน

วันอังคารที่ 30 มิถุนายน 2552 เวลา 08.00 น. นายกสมาคมผู้ปกครองฯ และกรรมการ 3 ท่าน ได้มาพบฝ่ายบริหารและร่วมปรึกษาหารือถึงมาตรการ การวางแนวทางแก้ไขของโรงเรียน เพื่อจะประสานและทำความเข้าใจให้กับผู้ปกครองต่อไป
เวลา 08.10 น. มาสเตอร์เสน่ห์ คำวินิจ ได้ชี้แจงให้นักเรียนชั้น ม.1, ม.2, ม.4 และ ม.5 ให้เข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริง รวมถึงการป้องกันการแพร่ระบาด ส่วนนักเรียนชั้น ม.3 และ ม.6 ท่านผู้อำนวยการได้พูดให้ข้อคิดในการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติตนอย่างถูกต้องที่ห้องประชุมใหญ่

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม 2552 โรงเรียนเปิดเรียนตามปกติ

แนวทางที่จะต้องดำเนินการรณรงค์อย่างต่อเนื่องของโรงเรียน
โดยคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่
1. ให้เฝ้าระวังคอยติดตามการเจ็บป่วยของนักเรียนอย่างใกล้ชิด ครูประจำชั้นต้องรายงานให้ผู้บริหารทราบทุกวันในการขาดเรียนของนักเรียนในแต่ละห้อง ไม่ว่าด้วยสาเหตุใด
2. นักเรียนหรือครูและบุคลากรทางการศึกษาคนใดรู้สึกไม่สบาย มีไข้ ป่วย ไอ ให้ไปพบแพทย์และพักรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือที่บ้านตามคำแนะนำของแพทย์จนกว่าจะหายขาด จึงค่อยกลับมาเรียนหรือทำงานตามปกติ
3. มีแผ่นป้ายให้ความรู้ การป้องกัน การปฏิบัติตน หน้าห้องพยาบาล และบริเวณหน้าโรงอาหาร
4. ให้ครูทุกคนรณรงค์ ชี้แจง เรื่องความรู้เบื้องต้นเพื่อการป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
4.1. การดูแลใส่ใจสุขภาพ
4.2. สร้างความเข้าใจไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
4.3. วิธีป้องกัน เช่น การล้างมือให้ การใช้ผ้าปิดปากและจมูก ที่ถูกต้อง
4.4. หากมีอาการป่วย มีไข้สูง ไอ จาม เจ็บคอ ควรไปพบแพทย์และพักอยู่ที่บ้าน โดยให้อยู่ในการแนะนำดูแลของแพทย์ จนกว่าจะหายเป็นปกติ
4.5. ถ้าระหว่างที่โรคกำลังระบาดขอความกรุณาครูผู้สอนในทุกรายวิชาเลื่อนการสอบเก็บคะแนนออกไปหรือมาสอบในภายหลัง
4.6. งดกิจกรรมที่นำนักเรียนมารวมกันจำนวนมาก